ภัยธรรมชาติ (Natural Disaster) หมายถึง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองโดยที่มนุษย์ไม่ได้เป็นผู้ก่อ และส่งผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว สึนามิ พายุ ภูเขาไฟระเบิด ดินถล่ม ไฟป่า และภัยแล้ง ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติเอง เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ระบบนิเวศ หรือการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก
อุทกภัย หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า น้ำท่วม หมายถึง ภัยธรรมชาติที่เกิดจากการสะสมของน้ำปริมาณมากอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำล้นตลิ่งหรือไหลเข้าท่วมพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่เกษตรกรรม หรือเขตเศรษฐกิจ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน พายุฤดูร้อน พายุไต้ฝุ่น พายุเฮอริเคน น้ำทะเลหนุนสูง หรือเขื่อนแตกและการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด เป็นต้น
อุทกภัยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะใหญ่ๆ ได้แก่
1. ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ
2. ผลกระทบต่อทรัพย์สิน
3. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
4. ผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ก่อนเกิดน้ำท่วม
ขณะเกิดน้ำท่วม
หลังน้ำท่วมลดลง
วาตภัย คือ ภัยธรรมชาติที่เกิดจากลมพายุพัดแรงและรุนแรงผิดปกติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยทั่วไปจะรวมถึงพายุชนิดต่างๆ เช่น พายุหมุนเขตร้อน (ไต้ฝุ่น เฮอริเคน ไซโคลน) พายุฤดูร้อน (พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก) และพายุทอร์นาโด (พายุงวงช้าง) ซึ่งลมที่มีความรุนแรงมากนี้ สามารถทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงได้ในระยะเวลาอันสั้น
1. ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ
2. ผลกระทบต่อทรัพย์สิน
3. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
4. ผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แนวทางปฏิบัติก่อนเกิดวาตภัย
แนวทางปฏิบัติขณะเกิดวาตภัย
แนวทางปฏิบัติหลังเกิดวาตภัย
พายุฝนฟ้าคะนอง คือ สภาพอากาศแปรปรวนที่เกิดจากกลุ่มเมฆฝน (เมฆคิวมูโลนิมบัส – Cumulonimbus Clouds) ซึ่งจะมาพร้อมกับฝนตกหนัก ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีลูกเห็บตกด้วยในบางครั้ง โดยทั่วไปมักเกิดขึ้นในฤดูร้อน หรือช่วงที่มีอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ โดยเฉพาะบริเวณที่โล่งแจ้ง พื้นที่เกษตรกรรม หรือเขตชุมชนที่มีสิ่งปลูกสร้างไม่แข็งแรง
ลักษณะสำคัญของพายุฝนฟ้าคะนอง
1. ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ
2. ผลกระทบต่อทรัพย์สิน
3. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
4. ผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แนวทางปฏิบัติก่อนเกิดวาตภัย
แนวทางปฏิบัติขณะเกิดวาตภัย
แนวทางปฏิบัติหลังเกิดวาตภัย
ไฟป่า คือ ภัยธรรมชาติที่เกิดจากการลุกไหม้ของไฟในพื้นที่ป่าไม้หรือพื้นที่ธรรมชาติที่มีต้นไม้หรือพืชพรรณขึ้นหนาแน่น โดยทั่วไปมักเกิดในช่วงฤดูแล้งหรือฤดูร้อนที่มีอากาศแห้งและอุณหภูมิสูงต่อเนื่องหลายวัน ส่งผลให้พืชแห้งแล้งเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้ไฟลุกลามได้อย่างรวดเร็วและควบคุมได้ยาก ไฟป่าสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุทางธรรมชาติ เช่น ฟ้าผ่า หรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การเผาป่าเพื่อทำการเกษตรหรือเกิดจากความประมาทของมนุษย์เอง
สาเหตุหลักของการเกิดไฟป่า
ไฟป่ามักเกิดจากสาเหตุหลักๆ ดังนี้
1. ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ
2. ผลกระทบต่อทรัพย์สิน
3. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
4. ผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แนวทางปฏิบัติก่อนเกิดไฟป่า
แนวทางปฏิบัติขณะเกิดไฟป่า
แนวทางปฏิบัติหลังเกิดไฟป่า
ภัยแล้ง (Drought) คือ ภัยธรรมชาติที่เกิดจากสภาพอากาศแห้งแล้ง ฝนตกน้อยกว่าปกติเป็นเวลานานหลายเดือนหรือหลายปี ทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง อ่างเก็บน้ำ และบ่อน้ำใต้ดิน มีปริมาณน้ำลดลงอย่างมากจนไม่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน การเกษตรกรรม อุตสาหกรรม รวมถึงระบบนิเวศโดยรอบ ภัยแล้งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนตกน้อยเป็นปกติอยู่แล้ว หรือพื้นที่ที่การบริหารจัดการน้ำยังไม่ดีพอ
สาเหตุของการเกิดภัยแล้ง
ภัยแล้งอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น
1. ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ
2. ผลกระทบต่อทรัพย์สิน
3. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
4. ผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แนวทางปฏิบัติก่อนเกิดภัยแล้ง
แนวทางปฏิบัติขณะเกิดภัยแล้ง
แนวทางปฏิบัติหลังเกิดภัยแล้ง
แผ่นดินไหว คือ ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของพื้นผิวโลก โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (Tectonic Plates) ซึ่งแผ่นเปลือกโลกเหล่านี้เคลื่อนตัวเข้าหากัน แยกออกจากกัน หรือเสียดสีกัน ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่พื้นผิวโลกและแพร่กระจายเป็นคลื่นแผ่นดินไหวในทุกทิศทาง การสั่นสะเทือนนี้มีขนาดความรุนแรงตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงรุนแรงมาก ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ เช่น อาคารถล่ม ถนนแตกร้าว ดินถล่ม หรืออาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิตามมาได้ในบางกรณี
สาเหตุของแผ่นดินไหว
สาเหตุหลักของแผ่นดินไหวแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ
2. ผลกระทบต่อทรัพย์สิน
3. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
4. ผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แนวทางปฏิบัติก่อนเกิดแผ่นดินไหว
แนวทางปฏิบัติขณะเกิดแผ่นดินไหว
แนวทางปฏิบัติหลังเกิดแผ่นดินไหว
แผ่นดินถล่ม หมายถึง ภัยธรรมชาติที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของดิน หิน หรือเศษวัสดุต่างๆ จากที่สูงลงสู่ที่ต่ำอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยส่วนมากมักเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ลาดชัน ภูเขา หุบเขา หรือพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำ ซึ่งการเคลื่อนตัวของดินหรือหินนี้ อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น ฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายวัน แผ่นดินไหว หรืออาจเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การตัดไม้ทำลายป่า การก่อสร้างถนนหรืออาคารในพื้นที่ลาดชันโดยไม่มีระบบป้องกันที่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อมได้
สาเหตุหลักของแผ่นดินถล่ม
สาเหตุที่สำคัญของแผ่นดินถล่ม ได้แก่
1. ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ
2. ผลกระทบต่อทรัพย์สิน
3. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
4. ผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แนวทางปฏิบัติก่อนเกิดแผ่นดินถล่ม
แนวทางปฏิบัติขณะเกิดแผ่นดินถล่ม
แนวทางปฏิบัติหลังเกิดแผ่นดินถล่ม